วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จระเข้

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จระเข้
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: อีโอซีน-ปัจจุบัน[1]
จระเข้น้ำเค็ม (Crocodylus porosus) เป็นสัตว์ในวงศ์นี้ และอันดับ Crocodilia ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์อยู่จนถึงปัจจุบัน
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Animalia
ไฟลัม:Chordata
(unranked):Archosauria
ชั้น:Sauropsida
อันดับ:Crocodilia
วงศ์:Crocodylidae
Cuvier, 1807
ชนิดต้นแบบ
Crocodylus niloticus
Laurenti, 1768
สกุล
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของวงศ์จระเข้
จระเข้ (อังกฤษ: Crocodile) เป็นวงศ์ของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ ใช้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylidae อยู่ในอันดับจระเข้ (Crocodilia)
มีลักษณะโดยรวมคือ ส่วนปลายของหัวแผ่กว้างหรือเรียวยาว ขากรรไกรยาวและกว้าง เมื่อหุบปากแล้วจะเห็นฟันซี่ที่ 4 ของขากรรไกรล่างเนื่องจากขอบปากบนตรงตำแหน่งนี้เป็นรอยหยักเว้า ส่วนปลายของขากรรไกรล่างข้างซ้ายและข้างขวาเชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่แคบ กระดูกเอนโทพเทอรีกอยด์อยู่ชัดกับแถวของฟันที่กระดูกแมคซิลลา กระดูกพาลามีนมีก้านชิ้นสั้นอยู่ทางด้านหน้าและไม่ถึงช่องในเบ้าตา พื้นผิวด้านบนของลิ้นไม่มีสารเคอราติน ต่อมขจัดเกลือบนลิ้นมีขนาดใหญ่ มีก้อนเนื้อที่ปลายปากนูนสูงที่ช่องเปิดรูจมูกเรียกว่า "ก้อนขี้หมา" หรือ "หัวขี้หมา"[2] ซึ่งจะแตกต่างออกไปตามชนิดและเพศหรือขนาด โคนหางเป็นกล้ามเนื้อมัดใหญ่และแข็งแรงเรียกว่า "บ้องตัน" ใช้ในการฟาดเพื่อป้องกันตัว หางแบนยาวใช้โบกว่ายน้ำ
จระเข้ ถือเป็นสัตว์ที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาาหร เนื่องจากเป็นสัตว์ผู้ล่ากินเนื้อขนาดใหญ่ ที่ไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ ยกเว้นจระเข้ในวัยอ่อน ที่ตกเป็นอาหารของสัตว์ขนาดใหญ่กว่าชนิดต่าง ๆ ได้ จระเข้ตัวโตเต็มวัยจะมีพฤติกรรมกินอาหารแบบหมุนตัว กล่าว คือ เมื่อจับเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ขณะอยู่ใต้น้ำและต้องการกินเหยื่อจะใช้ปากงับไว้และหมุนตัวเองเพื่อฉีกเนื้อเหยื่อออกเป็นชิ้น ส่วนเหยื่อที่มีขนาดเล็กถูกบดให้แหลกด้วยลิ้นขนาดใหญ่โดยใช้ลิ้นดันเหยื่ออัดแน่นกับเพดานของอุ้งปาก นอกจากนี้แล้วจระเข้ยังกลืนก้อนกรวดหรือก้อนหินเข้าไปในกระเพาะเพื่อช่วยในการบดอาหารด้วย [3]
แบ่งออกได้เป็น 3 สกุล 14 ชนิด พบได้ในเขตอบอุ่นและเขตร้อนของทุกทวีปทั่วโลก นับว่ามีจำนวนสมาชิกมากและหลากหลายที่สุดของอันดับจระเข้ที่ยังพบคงดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้
มักอาศัยบริเวณป่าริมน้ำหรือพื้นที่ชุ่มน้ำ เพราะหากินในน้ำเป็นหลัก บางชนิดหรือบางพื้นที่อาจพบได้ในแหล่งน้ำกร่อยหรือป่าชายเลนหรือปากแม่น้ำใกล้ทะเล ในประเทศไทยพบ 3 ชนิด คือ จระเข้บึง หรือ จระเข้น้ำจืด (Crocodylus siamensis), อ้ายเคี่ยม หรือ จระเข้น้ำเค็ม (C. porosus) และ จระเข้ปากกระทุงเหว หรือ ตะโขง (Tomistoma schlegelii) ซึ่งมิได้ถูกจัดอยู่ในวงศ์นี้[4]

เนื้อหา

[ซ่อน]

การจัดจำแนกสัตว์ในวงศ์จระเข้ (Crocodylidae)[แก้]

ส่วนใหญ่ถูกจัดอยู่ในสกุล Crocodylus ส่วนอีกสกุลที่เหลือ คือ Osteolaemus เป็นสกุลที่มีสปีชีส์เดียว
จระเข้อาบแดดเพื่อความอบอุ่น

การสืบพันธุ์[แก้]

ผสมพันธุ์กันในน้ำ ออกลูกเป็นไข่ มีการพบว่าอุณหภูมิการกกไข่เป็นตัวกำหนดเพศ โดยอุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียสจะได้เพศผู้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศาเซลเซียสจะได้เพศเมีย [5] ลูกวัยอ่อนจะถูกดูแลโดยพ่อและแม่ พ่อแม่จระเข้สามารถส่งเสียงร้องพิเศษได้เพื่อใช้การผสมพันธุ์และติดต่อสื่อสารกับลูก ๆ และนอกจากนี้แล้วยังสามารถส่งเสียงร้องได้หลากหลายประเภทอีก นับว่าเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ส่งเสียงร้องได้หลากหลายที่สุด ลูกจระเข้วัยอ่อนจะกินอาหารขนาดเล็กก่อน แม้กระทั่ง แมลง [6]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Buchanan, L.A. 2009. "Kambara taraina sp. nov. (Crocodylia, Crocodyloidea), a new Eocene mekosuchine from Queensland, Australia, and a revision of the genus". Journal of Vertebrate Paleontology 29 (2) : 473–486.
  2. ก้อนขี้หมา ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542
  3. วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หน้า 147 (พ.ศ. 2552) ISBN 978-616-556-016-0
  4. วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หน้า 369-370 (พ.ศ. 2552) ISBN 978-616-556-016-0
  5. ลูกสัตว์ในอ้อมอกมนุษย์, นิตยสารสารคดี ฉบับเดือนมกราคม พ.ศ. 2541 หน้า 72
  6. วีรยุทธ์ เลาหะจินดา, วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หน้า 170-172 (พ.ศ. 2552) ISBN 978-616-556-016-0

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

รายการเลือกป้ายบอกทาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น